เมนู

เพลินซึ่งใจและธรรมารมณ์นั้น เมื่อไม่เพลินซึ่งใจ และธรรมารมณ์นั้น
ความทำไว้ในเบื้องหน้ามิได้มีแก่พระอรหันต์นั้น แม้ด้วยเหตุอย่างนี้.
อีกอย่างหนึ่ง พระอรหันต์ย่อมไม่ตั้งจิตเพื่อได้ภพที่ยังไม่ได้ว่า เรา
จักเป็นเทพเจ้าหรือเป็นเทวดาตนใดตนหนึ่ง ด้วยศีล ด้วยวัตร ด้วยตบะ
หรือด้วยพรหมจรรย์นี้ เพราะเหตุไม่ตั้งจิตไว้ จึงไม่เพลินภพนั้น เมื่อ
ไม่เพลินภพนั้น ความทำไว้ในเบื้องหน้ามิได้มีแก่พระอรหันต์นั้น แม้
ด้วยเหตุอย่างนี้ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
(พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า) ก่อนแต่กายแตก พระ-
อรหันต์เป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่อาศัยส่วนเบื้องต้นอัน
ใคร ๆ ไม่นับได้ในส่วนท่ามกลาง ความทำไว้ในเบื้อง
หน้ามิได้มีแก่พระอรหันต์นั้น.

[383] บุคคลนั้นแล ผู้ไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่
มีความคะนอง พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน สำรวมวาจา
เป็นมุนี.


ว่าด้วยเหตุให้เกิดความโกรธ 10 อย่าง


[384] ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ผู้ไม่โกร ในคำว่า ผู้ไม่
โกรธไม่สะดุ้ง ก็แต่ว่าความโกรธควรกล่าวก่อน ความโกรธ ย่อมเกิด
ด้วยอาการ 10 อย่าง คือ ความโกรธย่อมเกิดด้วยอาการว่า เขาได้ประพฤติ
สิ่งไม่เป็นประโยชน์แก่เราแล้ว 1 เขากำลังประพฤติสิ่งไม่เป็นประโยชน์
แก่เรา 1 เขาจักประพฤติสิ่งไม่เป็นประโยชน์แก่เรา 1 เขาได้ประพฤติสิ่ง